วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สืบไม่มีวันตาย แต่อาจมีวันลืม?
สืบไม่มีวันตาย แต่ความทรงจำเกี่ยวกับสืบจะมีสภาพและรูปทรงแบบไหนในสมองของคนรุ่นใหม่ ศศินเล่าว่าคนในยุคที่สืบเสียชีวิตก็คือผู้ที่ยังคงบริจาคให้แก่มูลนิธิฯ มาจนทุกวันนี้ และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งพิงคนรุ่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
น่าสนใจว่าสืบอาจเป็นสัญลักษณ์ของนักสู้คนหนึ่ง แต่เขากลับไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของภาคประชาชนในปัจจุบันสักเท่าไหร่
ศศินวิเคราะห์อย่างน่ารับฟังว่า การต่อสู้ในยุคของสืบเป็นการต่อสู้เพื่อป่า เพื่อสัตว์ป่า โดยที่ยังไม่มีเรื่องคนและสิทธิในการจัดการทรัพยากรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อสังคมไทยเริ่มเข้าสู่ยุคเร่งเครื่องทางเศรษฐกิจในช่วงพลเอกชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายกรัฐมนตรี ทุนนิยมฟองสบู่จึงเฟื่องฟูขึ้น การรุกรานของทุนเคลื่อนจากป่าสู่ภาคชนบท ซึ่งมันไปกระทบกับผู้คนและสิทธิของชุมชนโดยตรง
“มันจึงเกิดกระบวนการต่อสู้พวกนี้ขึ้นมาตามลำดับ มันเป็นเรื่องที่กระทบกับคนเยอะมาก 19 ปีที่ผ่านมาหลังการเสียชีวิตของคุณสืบ พื้นที่ป่ามันไม่ลด แต่ว่าการรุกรานสิ่งแวดล้อมมันไปเล่นอยู่บนฐานของคน ของทรัพยากรชุมชน คุณสืบจึงไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ตรงนี้แล้ว”
ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้สืบยังคงถูกจดจำ...จดจำอย่างมีนัยสำคัญต่อการต่อสู้ของภาคประชาชนที่เข้มข้นขึ้นทุกวี่วัน
ศศินมองไปถึงการรีแบรนด์สืบให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงและสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และเพื่อให้มูลนิธิสืบฯ สามารถทำงานต่อไปได้ แต่เขาก็บอกไว้อย่างเด็ดเดี่ยวด้วยว่า
“ถ้ารากของการอนุรักษ์มันฝังอยู่ในสังคมไทยอย่างแน่นหนาแล้ว การที่ชื่อคุณสืบจะหายไป มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
*****
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น